ที่ สน.กก.ผอญ.128//2551
วันที่ 14 สิงหาคม 2551
เรื่อง คำอธิบายและวิเคราะห์งบการเงิน สำหรับงวดสามเดือน และหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2551
เรียน กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ขอชี้แจงการเปลี่ยนแปลงที่ สำคัญในงบการเงินรวมที่ได้สอบทานแล้ว โดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ประจำไตรมาสที่ 2/2551 และงวดหกเดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2551ดังนี้
ผลประกอบการของบริษัทและบริษัทย่อย
บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 339 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 216 ล้านบาท หรือร้อยละ 175 จากไตรมาส 2/2550 มีสาเหตุหลักโดยสรุปดังนี้ - รายได้รวมในไตรมาสนี้มีจำนวน 5,246 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 869 ล้านบาท หรือร้อยละ 20 จากไตรมาสที่ 2/2550 ส่วนใหญ่เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของ รายได้ค่าบริการคนไข้ โดยรายได้จากผู้ป่วยในเพิ่มขึ้นร้อยละ 27 และ รายได้จากผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 โดยการเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 2/2551 นี้มาจากคนไข้ชาวไทยร้อยละ 18 และคนไข้ชาวต่างชาติ ร้อยละ 24 ทำให้สัดส่วนรายได้จากคนไข้ชาวไทย ต่อชาวต่างชาติ เป็น ร้อยละ 65 ต่อร้อยละ 35 ในไตรมาสที่ 2/2551 นอกจากนี้ส่วนแบ่งกำไรจาก บริษัทร่วมเพิ่มขึ้นจาก 5 ล้านบาทในไตรมาสที่ 2/2550 เป็น 40 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 637 ในไตรมาสที่ 2/2551 ส่วนใหญ่เกิดจากส่วนแบ่งกำไร จากบริษัท รามคำแหง จำกัด (มหาชน) จำนวน 35 ล้านบาท- ในไตรมาสที่ 2/2551 บริษัทมีต้นทุนค่ารักษาพยาบาลและอื่นๆ รวม 2,859 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2/2550 จำนวน 383 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 15 อย่างไรก็ตามอัตราการเพิ่มขึ้นของต้นทุนค่ารักษาพยาบาลนี้ ยังต่ำกว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าบริการคนไข้ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้น เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 42 ในไตรมาส 2/2550 เป็นร้อยละ 44 ในไตรมาสที่ 2/2551
- ค่าใช้จ่ายในการบริหารงานในไตรมาสที่ 2/2551 มีจำนวน 1,167 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 152 ล้านบาทหรือร้อยละ 15 จากไตรมาสที่ 2/2550 ซึ่งสอดคล้องกับ การเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าบริการคนไข้ ประกอบกับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงาน ที่เพิ่มขึ้นจากการปรับค่าครองชีพให้แก่พนักงาน อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพใน การดำเนินงานของบริษัทปรับเพิ่มสูงขึ้นโดยกำไรจากการดำเนินงานหลัก ก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (?Core EBITDA?) เพิ่มขึ้นจาก 784 ล้านบาทในไตรมาสที่ 2/2550 เป็น 1,087 ล้านบาทใน ไตรมาสที่ 2/2551 โดยสัดส่วน Core EBITDA ต่อรายได้ค่าบริการคนไข้ เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 18 ในไตรมาสที่ 2/2550 เป็นร้อยละ 21 ในไตรมาสที่ 2/2551 จากอัตราการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของรายได้ค่าบริการคนไข้สูงกว่า อัตราการเพิ่มขึ้นของต้นทุนค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน
- บริษัทบันทึกค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายจำนวน 544 ล้านบาท ใน ไตรมาสที่ 2/2551 เพิ่มขึ้น 88 ล้านบาท หรือร้อยละ 19 เมื่อเปรียบเทียบกับ ไตรมาสที่ 2/2550 เนื่องจากมีการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ อาคารโรงพยาบาลและเครื่องมือแพทย์ เพื่อรองรับการขยายตัวของการให้บริการ ที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามกำไรจากการดำเนินงานหลักก่อนหักดอกเบี้ยจ่ายและภาษี (?Core EBIT?) เพิ่มขึ้นจาก 328 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 2/2550 เป็น 543 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 2/2551 และสัดส่วน Core EBIT ต่อรายได้ค่าบริการคนไข้เพิ่มจาก ร้อยละ 8 ในไตรมาสที่ 2/2550 เป็นร้อยละ 11 ในไตรมาสที่ 2/2551
- ดอกเบี้ยจ่ายลดลงจาก 175 ล้านบาทในไตรมาสที่ 2/2550 เป็น 146 ล้านบาท หรือร้อยละ 17 ในไตรมาสที่ 2/2551 จากการปรับโครงสร้างแหล่งเงินทุน ของบริษัทในไตรมาสที่ 1/2551 โดยบริษัทชำระคืนภาระหนี้ที่มีหลักประกัน ก่อนกำหนดจำนวน 7,167 ล้านบาท และบริษัทกู้เงินกู้ระยะยาวที่ไม่มีหลักประกัน จำนวน 3,500 ล้านบาท และออกหุ้นกู้ที่ไม่มีหลักประกันจำนวน 5,000 ล้านบาท
จากผลการดำเนินงานที่ดี บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 339 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 216 ล้านบาทหรือร้อยละ 175 จากไตรมาส 2/2550 ทำให้ อัตรากำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3 ในไตรมาสที่ 2/2550 เป็นร้อยละ 6 ในไตรมาสที่ 2/2551 และกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานเพิ่มขึ้นจาก 0.10 บาทในไตรมาสที่ 2/2550 เป็น 0.28 บาท ในไตรมาสที่ 2/2551 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 168
สำหรับผลการดำเนินงาน สำหรับงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2551 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 1,036 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 490 ล้านบาท หรือร้อยละ 90 จากงวดเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักโดยสรุปดังนี้ - รายได้รวมของบริษัทและบริษัทย่อย สำหรับงวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2551 มีจำนวน 10,822 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 จากงวดเดียวกัน ของปีก่อน ส่วนใหญ่เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าบริการคนไข้ จากรายได้ ผู้ป่วยในเพิ่มขึ้นร้อยละ 24 และจากผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้นร้อยละ 14 โดยการเพิ่มขึ้นในงวด ครึ่งปีแรกของปี 2551 นี้มาจากคนไข้ชาวไทยร้อยละ 15 และคนไข้ชาวต่างชาติ ร้อยละ 24 ทำให้สัดส่วนรายได้จากคนไข้ชาวไทย ต่อชาวต่างชาติ เป็น ร้อยละ 62 ต่อร้อยละ 38 ในงวดครึ่งปีแรกของปี 2551 นอกจากนี้ส่วนแบ่งกำไร จากบริษัทร่วมเพิ่มขึ้นจาก 7 ล้านบาทในงวดครึ่งปีแรกของปี 2550 เป็น 86 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1,185 ในงวดครึ่งปีแรกของปี 2551 ส่วนใหญ่เกิดจาก ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัท รามคำแหง จำกัด (มหาชน) จำนวน 77 ล้านบาท
- ในงวดครึ่งปีแรกของปี 2551 บริษัทมีต้นทุนค่ารักษาพยาบาลและอื่นๆ รวม 5,741 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จากงวดเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม อัตราการเพิ่มขึ้นของต้นทุนค่ารักษาพยาบาลนี้ยังต่ำกว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของ รายได้ค่าบริการคนไข้ ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 44 ในงวด ครึ่งปีแรกของปี 2550 เป็นร้อยละ 45 ในงวดครึ่งปีแรกของปี 2551
- ค่าใช้จ่ายในการบริหารงานจำนวน 2,268 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 จากงวด ครึ่งปีแรกของปี 2550 ซึ่งสอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าบริการคนไข้ ประกอบกับค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานที่เพิ่มขึ้นจากการปรับค่าครองชีพ ให้แก่พนักงาน อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพในการดำเนินงานของบริษัทปรับ เพิ่มสูงขึ้นโดยกำไรจากการดำเนินงานหลักก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (?Core EBITDA?) เพิ่มขึ้นจาก 1,920 ล้านบาทในงวดครึ่งปีแรก ของปี 2550 เป็น 2,504 ล้านบาทในงวดครึ่งปีแรกของปี 2551 โดยสัดส่วน Core EBITDA ต่อรายได้ค่าบริการคนไข้เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 22 ในงวดครึ่งปีแรก ของปี 2550 เป็นร้อยละ 24 ในงวดครึ่งปีแรกของปี 2551 จากอัตราการเพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่องของรายได้ค่าบริการคนไข้สูงกว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของต้นทุน ค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน
- บริษัทบันทึกค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายจำนวน 1,061 ล้านบาท ในงวด ครึ่งปีแรกของปี 2551 เพิ่มขึ้น ร้อยละ 19 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดครึ่งปีแรกของปี 2550 เนื่องจากมีการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอาคารโรงพยาบาล และเครื่องมือแพทย์ เพื่อรองรับการขยายตัวของการให้บริการที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามกำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่ายและภาษี (?Core EBIT?) เพิ่มขึ้นจาก 1,029 ล้านบาท ในงวดครึ่งปีแรกของปี 2550 เป็น 1,442 ล้านบาทในงวดครึ่งปีแรก ของปี 2551 และสัดส่วน Core EBIT ต่อรายได้ค่าบริการคนไข้เพิ่มจากร้อยละ 12 ในงวดครึ่งปีแรกของปี 2550 เป็นร้อยละ 14 ในงวดครึ่งปีแรกของปี 2551
- ดอกเบี้ยจ่ายลดลงเป็น 312 ล้านบาทในงวดครึ่งปีแรกของปี 2551 หรือลดลงร้อยละ 16 จากงวดครึ่งปีแรกของปี 2550 จากการปรับโครงสร้างแหล่งเงินทุนของบริษัทใน ไตรมาสที่ 1/2551
จากที่กล่าวมาข้างต้น บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ 1,036 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 490 ล้านบาท หรือร้อยละ 90 จากงวดเดียวกันของปีก่อน ทำให้บริษัทมี อัตรากำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 6 ในงวดครึ่งปีแรกของปี 2550 เป็นร้อยละ 10 ในงวดครึ่งปีแรกของปี 2551 และกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานเพิ่มขึ้นจาก 0.46 บาทในงวดครึ่งปีแรกของปี 2550 เป็น 0.85 บาทใน งวดครึ่งปีแรก ของปี 2551 หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 85
ฐานะการเงิน
งบการเงินรวมของบริษัทและบริษัทย่อย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2551 บริษัทและ บริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวม 27,864 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,632 ล้านบาท หรือร้อยละ 6 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 จากการเพิ่มขึ้นของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด จำนวน 1,007 ล้านบาท นอกจากนี้เงินลงทุนในบริษัทร่วมเพิ่มขึ้นจาก 943 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 เป็น 1,688 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2551 เนื่องจากในไตรมาสที่ 1/2551 บริษัทได้ลงทุนเพิ่มเติมใน บริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) จำนวนรวม 1.45 ล้านหุ้น ในราคา หุ้นละ 480 บาท รวมเป็นเงิน 694.43 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯมีอัตราส่วนการถือหุ้น ในบริษัทดังกล่าวเพิ่มจากร้อยละ 26.18 เป็นร้อยละ 38.24 ประกอบกับการรับรู้ รายได้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมตามวิธีส่วนได้เสีย
หนี้สินรวมของบริษัทและบริษัทย่อย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2551 มีจำนวน 15,680 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,159 ล้านบาท หรือร้อยละ 8 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 สาเหตุหลักมาจากการปรับโครงสร้างแหล่งเงินทุนในไตรมาสที่ 1/2551 อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเท่ากับประมาณ 1.0 เท่าซึ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลงจาก ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550
ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท (ไม่รวมส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยของบริษัทย่อย) มีจำนวน 11,565 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 451 ล้านบาท หรือร้อยละ 4 ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550 เนื่องจากกำไรสุทธิครึ่งปีแรกของปี 2551 จำนวน 1,036 ล้านบาท หักด้วยเงินปันผลจ่ายจำนวน 607 ล้านบาท
สภาพคล่อง
งวด 6 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2551 บริษัทและบริษัทย่อยมีกระแสเงินสด จากกิจกรรมดำเนินงาน จำนวน 2,326 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 626 ล้านบาทจากงวดเดียวกัน ของปีก่อน การเพิ่มขึ้นดังกล่าวส่วนใหญ่เกิดจากกำไรของบริษัทและบริษัทย่อย ส่วนกระแสเงินสดใช้ไปในกิจกรรมลงทุน รวมจำนวน 1,614 ล้านบาท ลดลง 21 ล้านบาท มีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของการซื้อสินทรัพย์ถาวรหักด้วยการลงทุน เพิ่มเติมในบริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) กระแสเงินสดที่ได้มาจากกิจกรรมจัดหาเงินเพิ่มขึ้น 378 ล้านบาท จากการปรับโครงสร้าง แหล่งเงินทุนของบริษัท เป็นผลให้บริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดปลายงวด เพิ่มขึ้นเป็น 1,971 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2551 จาก 1,083 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2550
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ
(นาย วัลลภ อธิคมประภา)
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่